Our vision & mission

ฝันของพวกเรา (Vision)

พวกเราศรัทธาในพื้นที่การเรียนรู้ในรูปแบบการจัดกระบวนการเพื่อการตระหนักรู้ (Facilitation for awareness) ที่ผู้เข้าร่วมจะได้ถอยออกมาจากความเคยชินของชีวิตประจำวัน และได้มีโอกาสในการใคร่ครวญตนเอง ได้ครุ่นคิดเกี่ยวกับประเด็นสำคัญต่างๆในชีวิต ที่เราอาจไม่ค่อยได้มีเวลาหรือพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนมันกับคนอื่นมาก่อน จึงอยากเผยแพร่วัฒนธรรมการเรียนรู้แนวนี้แก่สังคมที่เป็นวงกว้างมากขึ้น ถ้าให้ลงรายละเอียด อาจแบ่งเป็น 5 มิติ ได้แก่:

1. พื้นที่สำหรับความสัมพันธ์ดีๆ

– ได้เป็นทั้งผู้ให้ และเป็นผู้รับ

– ได้ถูกรับฟัง และได้ฟังอย่างไม่ตัดสิน

– ได้เห็นคุณค่าในคนอื่น และคนอื่นเห็นคุณค่าในตัวเรา

2. พื้นที่สำหรับการใคร่ครวญตนเอง

– ได้กลับไปทบทวน ทำความเข้าใจเรื่องราวในอดีต

– ได้ถามคำถามต่อตัวเอง ว่าเราเป็นใคร เราจะมอบอะไรให้แก่สังคม

3. พื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนแง่มุมใหม่ๆ

– ได้ตระหนักรู้ หรือฉุกคิดกับบางอย่างที่เราไม่เคยนึกคิดมาก่อน

– ได้ทำความเข้าใจคนที่มีวิธีคิด/วิธีมองที่ต่างจากเรา และได้แบ่งปันวิธีคิดแบบเรา

– ได้รู้ว่าเราช่างไม่รู้อะไรมากมายเหลือเกิน แต่จะหมั่นเรียนรู้ไปด้วยกัน

4. พื้นที่สำหรับช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต

– พื้นที่ปลอดภัย ไม่ตัดสินไม่กล่าวโทษไม่ลงโทษไม่นินทา

– ให้กำลังใจกันในการลงมือทำ ทดลองสิ่งใหม่ๆ ได้ออกจาก comfort zone

– ช่วยกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมอง สู่ทางออกของปัญหายากๆในชีวิต

5. พื้นที่สำหรับหาทางออกของสังคมไปด้วยกัน

– แลกเปลี่ยนปัญหาทางสังคมทางสิ่งแวดล้อม และความเป็นไปได้ของทางออก

– แลกเปลี่ยนความคิดทางการเมือง

– ตัวอย่างกรณีศึกษา และกูรูรับเชิญมาบรรยาย

– เชื่อมโยงกับเครือข่ายเพื่อสังคมต่างๆ

สิ่งที่พวกเราทำ (Mission)

คาเฟ่ที่เน้นความเป็นกันเอง – เป็นพื้นที่เหมือนห้องนั่งเล่นของบ้านตัวเอง ที่เราจะสามารถนั่งทำงาน จิบกาแฟ (หรือเครื่องดื่มทั่วไป) ฟังเพลงชิลๆในมุมของตัวเอง ว่างๆก็มีหนังสือให้อ่านเล่นได้ มาทักทายบาริสต้าได้

ห้องสมุดขนาดย่อม – เป็นที่รวมหนังสือดีๆที่พวกเราอยากจะนำเสนอ ตั้งแต่หนังสือปรัชญาการใช้ชีวิต ประวัติศาสตร์การเมือง ไปจนถึงแนว Self-help ต่างๆ มีทั้งหนังสือแบบให้ยืมอ่านในคาเฟ่ และแบบซื้อกลับบ้านได้ (จากสำนักพิมพ์เสม Sem Press)

วงคุยหนังสือ (Book Club) – พวกเราเห็นความโรแมนติกของการอ่านหนังสือ ในแง่เป็นเครื่องมือนึงในการใคร่ครวญตนเอง เปิดมุมมองใหม่ๆ และใช้ชีวิตให้ช้าลง พวกเราเลยจัดวงคุยหนังสือเดือนละครั้ง โดยตั้งใจให้มาจิบกาแฟพร้อมอ่านหนังสือที่ C2 Cafe ในช่วงเช้า แล้วช่วงบ่ายก็จะมีกระบวนแลกเปลี่ยนในสิ่งที่อ่าน ตัวอย่างหนังสือที่พวกเรากะจัดเช่น ดอกไม้และความหวัง ผู้นำที่แท้(ฉบับกะทัดรัด) จะเล่าให้คุณฟัง สิทธารถะ และคนนอก เป็นต้น

พื้นที่นั่งสมาธิแบบเซ็น (Zazen) – พวกเราตั้งใจจะตั้งตัวเป็นศูนย์ภาวนาแบบเซ็น โดยมีพระอาจารย์จาวจากฝรั่งเศสเป็นผู้นำทาง ในเชิงปฏิบัติพวกเราจัดนั่งสมาธิแบบออนไลน์ทุกวันอังคารตั้งแต่เวลา 21.00 – 22.00 น. โดยทำอย่างต่อเนื่องปีนี้ถือเป็นปีที่สอง และพวกเราจัดเวิร์คช็อปภาวนาแบบเจอกันเดือนละครั้ง ในวันเสาร์บ่ายที่ C2 โดยจัดไปแล้ว 2 ครั้งในเดือน ก.ค. และ ส.ค. 66 ที่ผ่านมา

เวิร์คช็อป MBTI – พวกเราใช้ MBTI (cognitive function) ในชีวิตประจำวัน เป็นชุดภาษาเพื่อวิเคราะห์ทำความเข้าใจ ที่มาของพฤติกรรมในตัวเองและของผู้อื่น และเห็นประโยชน์ของมันอย่างยิ่งในการบ่มเพาะความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy) เรารู้ดีว่ามันเป็นเครื่องมือที่ซับซ้อน แต่ก็เชื่อว่าหากคนๆนึงพร้อมลงแรงลงเวลาในการเข้าใจทฤษฎีนี้ จะทำให้เข้าใจความเป็นมนุษย์ทั้งในตัวเองและผู้อื่นอย่างลึกซึ้งขึ้นและสามารถใช้ชีวิตอย่างละเอียดอ่อนมากขึ้น พวกเราจึงจัดเวิร์คช็อปทุกเดือนเพื่อเผยแพร่ทฤษฎีนี้